in

เครื่องทำความสะอาดไอน้ำ VS เครื่องดูดฝุ่น: สองคู่หูทำความสะอาด…แล้วบ้านเราควรมีอะไรดี?

เครื่องทำความสะอาดไอน้ำ

คุณเคยยืนมองอุปกรณ์ทำความสะอาดในบ้านแล้วคิดไหมคะว่า “เอ๊ะ! แล้วอันไหนมันเหมาะกับบ้านเราจริงๆ นะ?” โดยเฉพาะสองอย่างนี้ที่คนมักจะสับสนกันบ่อยๆ นั่นคือ “เครื่องทำความสะอาดไอน้ำ” กับ “เครื่องดูดฝุ่น” ค่ะ บางคนก็คิดว่ามันคล้ายกัน แต่จริงๆ แล้วหน้าที่ของมันต่างกันลิบลับเลยนะ

วันนี้เราจะมาคุยกันให้ชัดๆ เลยค่ะว่า เครื่องมือสองอย่างนี้เขาทำอะไรได้บ้าง มีดีตรงไหน แล้วมีข้อจำกัดอะไรที่เราควรรู้บ้าง เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ถูกว่าอะไรคือสิ่งที่บ้านของคุณต้องการจริงๆ จะได้ซื้อมาแล้วไม่ผิดหวัง คุ้มค่าเงินที่สุดค่ะ

มาทำความเข้าใจหน้าที่ของแต่ละเครื่องกันก่อน: “ดูดฝุ่น” ไม่เหมือน “ฆ่าเชื้อ” นะ!

ก่อนจะเลือกใครเข้าบ้าน เรามาดูกันก่อนว่าแต่ละเครื่องเขาเก่งเรื่องอะไร:

1. เครื่องดูดฝุ่น (Vacuum Cleaner): เพื่อนซี้จัดการฝุ่นและสิ่งสกปรกแห้งๆ

  • เขาทำอะไรได้: หน้าที่หลักๆ ของ เครื่องดูดฝุ่น คือการ “ดูด” เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละอองเล็กๆ ขนสัตว์เลี้ยง เศษผง หรือแม้แต่เศษขนมที่หล่นตามพื้น เขาก็จะดูดเก็บไปให้เราอย่างรวดเร็วจากพื้นผิวแห้งๆ ทั่วไป เช่น พื้นบ้าน พรม โซฟา หรือผ้าม่าน
  • เขาทำงานยังไง: ใช้มอเตอร์สร้างแรงดูดอากาศ คล้ายๆ พัดลมที่ดูดอากาศเข้าไปนั่นแหละค่ะ แล้วก็ดึงเอาสิ่งสกปรกเข้าไปเก็บไว้ในถุงเก็บฝุ่นหรือกล่องเก็บฝุ่นของเขา
  • เหมาะกับงานแบบไหน: เหมาะกับการทำความสะอาดบ้านทั่วๆ ไปในแต่ละวัน หรือเวลาที่เราอยากเก็บกวาดให้บ้านดูสะอาดเรียบร้อยเร็วๆ ค่ะ

2. เครื่องทำความสะอาดไอน้ำ (Steam Cleaner): ผู้ช่วยมือหนึ่งเรื่อง “ฆ่าเชื้อ” และ “จัดการคราบฝังลึก”

  • เขาทำอะไรได้: เครื่องทำความสะอาดไอน้ำ ไม่ได้มีหน้าที่ดูดฝุ่นโดยตรงนะคะ แต่เขาเน้นใช้ ไอน้ำร้อนจัดๆ แรงดันสูงๆ ค่ะ พอไอน้ำร้อนๆ โดนคราบสกปรก คราบไขมัน หรือคราบที่ฝังแน่นๆ มันก็จะช่วยละลายให้คราบหลุดออกง่ายขึ้น ที่สำคัญที่สุดคือความร้อนจากไอน้ำเนี่ย ยังช่วย ฆ่าเชื้อโรค ต่างๆ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา รวมถึง กำจัดไรฝุ่น และสารที่ทำให้เราแพ้ได้ด้วย
  • เขาทำงานยังไง: เราแค่ใส่น้ำเปล่าลงไปในเครื่อง เขาก็จะต้มน้ำให้เดือดจนกลายเป็นไอน้ำร้อนจัดๆ แล้วพ่นออกมาด้วยแรงดันสูงผ่านหัวฉีดต่างๆ ค่ะ ง่ายๆ แค่นั้นเลย
  • เหมาะกับงานแบบไหน: เหมาะกับการทำความสะอาดแบบละเอียดมากๆ ฆ่าเชื้อโรค จัดการสารก่อภูมิแพ้ และขจัดคราบที่ฝังแน่นบนพื้นผิวหลากหลายอย่าง โดยที่เราไม่ต้องใช้น้ำยาเคมีเลยค่ะ

มาเปรียบเทียบกันชัด ๆ: ใครมีดีอะไร ใครทำอะไรไม่ได้บ้าง?

พอจะเห็นภาพหน้าที่หลักของแต่ละเครื่องแล้วใช่ไหมคะ? ทีนี้เรามาเจาะลึกแต่ละด้านกันเลยค่ะ จะได้รู้ว่าใครเก่งเรื่องไหน ใครทำอะไรไม่ได้บ้าง จะได้เลือกถูกใจค่ะ

1. เรื่องการเก็บกวาดฝุ่นกับเศษผงทั่วไป

เครื่องดูดฝุ่น

  • ข้อดี: ตัวนี้คือเจ้าแห่งการ ดูดฝุ่น เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง ขนสัตว์ เศษผงเล็กๆ น้อยๆ จากพื้นแห้งๆ เขาเก็บได้หมดเร็วมากๆ ทำให้บ้านดูสะอาดเรียบร้อยได้ในเวลาสั้นๆ เหมาะกับการเก็บกวาดประจำวันจริงๆ ค่ะ
  • ข้อจำกัด: แต่เขาไม่ถนัดเรื่องคราบเปียกๆ คราบไขมัน หรือคราบที่ฝังแน่นนะคะ ถ้ามีน้ำหกแล้วเอา เครื่องดูดฝุ่น ไปดูดนี่อาจจะทำให้เครื่องเสียได้เลยค่ะ และเขาก็ไม่ได้ฆ่าเชื้อโรค หรือ ไรฝุ่น ที่อยู่ลึกๆ นะคะ แค่ดูดออกมาเท่านั้น

เครื่องทำความสะอาดไอน้ำ

  • ข้อดี: ตัวนี้เก่งเรื่อง ละลายคราบสกปรก ที่ฝังแน่น คราบไขมัน คราบสบู่ หรือคราบเชื้อราที่ติดหนึบๆ ออกได้อย่างดีเยี่ยมค่ะ แล้วก็ยังช่วย กำจัดไรฝุ่น ที่ตายแล้ว และสารที่ทำให้เราแพ้ที่เกาะอยู่บนพื้นผิวได้ด้วย (แต่เราต้องเช็ดตามด้วยผ้าสะอาดนะคะ เพราะเขาไม่ได้ดูดเอง)
  • ข้อจำกัด: เครื่องทำความสะอาดไอน้ำ ไม่ได้ถูกสร้างมาให้ “ดูด” ฝุ่นหรือเศษผงที่เป็นของแข็งค่ะ เพราะฉะนั้น ก่อนจะใช้ เครื่องทำความสะอาดไอน้ำ เราควรใช้ เครื่องดูดฝุ่น ดูดเอาฝุ่นหยาบๆ ออกไปก่อนเสมอค่ะ ไม่อย่างนั้นไอน้ำอาจจะไปทำให้ฝุ่นกลายเป็นคราบเปื้อนหนักขึ้นได้

2. เรื่องการฆ่าเชื้อโรคและจัดการสารก่อภูมิแพ้

เครื่องดูดฝุ่น

  • ข้อดี: เครื่องดูดฝุ่น บางรุ่น โดยเฉพาะรุ่นที่มีตัวกรองอากาศดีๆ อย่าง HEPA Filter เนี่ย ก็จะช่วย ดักจับฝุ่นละอองเล็กๆ ไรฝุ่น และสารที่ทำให้เราแพ้ได้บางส่วน ไม่ให้มันฟุ้งกระจายกลับออกมาในอากาศค่ะ ถือว่าดีกับคนเป็นภูมิแพ้ในระดับหนึ่ง
  • ข้อจำกัด: แต่เขาไม่สามารถฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส หรือ ไรฝุ่น ตัวเป็นๆ กับไข่ของมันได้จริงนะคะ เพราะการดูดฝุ่นเป็นแค่การเก็บไปไว้ในถุงหรือกล่องเก็บฝุ่นเท่านั้น ไม่ได้ทำลายพวกมันด้วยความร้อนหรือสารเคมี

เครื่องทำความสะอาดไอน้ำ

  • ข้อดี: นี่คือจุดที่ เครื่องทำความสะอาดไอน้ำ โดดเด่นที่สุดค่ะ เขาใช้ความร้อนสูงจากไอน้ำ (เกิน 100 องศาเซลเซียส) ซึ่งความร้อนระดับนี้สามารถ ฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และ กำจัดไรฝุ่น รวมถึงไข่ของมันได้เกือบ 100% เลยค่ะ เหมาะมากๆ สำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ เพราะช่วยลดต้นตอของสารที่ทำให้เราแพ้ได้แบบจริงจัง
  • ข้อจำกัด: อย่างที่บอกไปค่ะ เขาฆ่าได้ แต่ไม่ได้ดูดซากออกมาเอง ดังนั้น หลังจากใช้ไอน้ำแล้ว เราควรเช็ดพื้นผิวด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์สะอาด หรือใช้เครื่องดูดฝุ่นแบบที่ดูดน้ำได้ (ถ้ามี) เพื่อเก็บซาก ไรฝุ่น หรือสิ่งสกปรกที่หลุดออกมาให้หมดจดค่ะ

3. เรื่องการใช้น้ำยาเคมี

เครื่องดูดฝุ่น

  • ข้อดี: ไม่ต้องใช้น้ำยาเคมีในการดูดฝุ่นโดยตรงค่ะ
  • ข้อจำกัด: แต่ถ้าเราอยากฆ่าเชื้อโรค หรือทำความสะอาดคราบที่ต้องใช้น้ำยา ก็ต้องหาอุปกรณ์อื่น หรือน้ำยาทำความสะอาดแยกไป

เครื่องทำความสะอาดไอน้ำ

  • ข้อดี: จุดนี้สำคัญมากๆ เลยค่ะ เครื่องทำความสะอาดไอน้ำ ใช้แค่ น้ำเปล่า 100% ในการสร้างไอน้ำ ไม่ต้องใส่น้ำยาเคมีทำความสะอาดใดๆ เลยค่ะ ทำให้ปลอดภัยมากๆ กับคนในบ้าน เด็กเล็ก สัตว์เลี้ยง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกที่แพ้สารเคมีค่ะ

4. เรื่องพื้นผิวที่ใช้ทำความสะอาดได้

เครื่องดูดฝุ่น

  • ข้อดี: ใช้ได้กับพื้นผิวแห้งๆ ได้หลากหลายเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นพื้นกระเบื้อง พื้นไม้ พื้นลามิเนต พรม (ทั้งพรมสั้นและพรมขนยาว) โซฟาผ้า ผ้าม่าน หรือแม้แต่เบาะรถยนต์
  • ข้อจำกัด: ไม่เหมาะกับพื้นผิวที่เปียก หรือมีคราบน้ำมัน หรือคราบที่ต้องขัดด้วยของเหลวนะคะ เพราะอาจทำให้เครื่องเสียได้

เครื่องทำความสะอาดไอน้ำ

  • ข้อดี: ตัวนี้ใช้ได้กับพื้นผิวเยอะมากๆ ทั้งพื้นผิวแข็งและพื้นผิวอ่อน (แต่ต้องเป็นแบบที่ทนความร้อนและความชื้นได้นะคะ) เช่น:
    • พื้นแข็ง: กระเบื้อง, ร่องกระเบื้อง (พวกคราบดำๆ ตามร่องหลุดดีเลยค่ะ), พื้นไม้ (ถ้าเคลือบกันน้ำมาดีๆ), พื้นลามิเนต (บางชนิด), หินอ่อน, กระจก, สแตนเลส, สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ (คราบสบู่ คราบน้ำหายเกลี้ยง), เตาแก๊ส, คราบไขมันในครัว, หรือเครื่องดูดควัน
    • พื้นผิวอ่อน: พรม, โซฟาผ้า, ผ้าม่าน, ที่นอน, หมอน, ตุ๊กตาผ้า (แต่ต้องเช็ควัสดุและทดสอบในจุดเล็กๆ ที่มองไม่เห็นก่อนนะคะ)
  • ข้อจำกัด: ไม่เหมาะกับพื้นผิวที่บอบบางมากๆ หรือไม่ทนความร้อน/ความชื้นสูงค่ะ เช่น พื้นไม้ที่ไม่เคลือบกันน้ำดีๆ, วอลเปเปอร์บางชนิด, ผ้าไหม, หรือวัสดุที่เป็นกระดาษ ควรทดลองใช้ในจุดเล็กๆ ที่มองไม่เห็นก่อนเสมอค่ะ

5. เรื่องงานทำความสะอาดแบบไหน? เร็วๆ หรือลึกๆ?

เครื่องดูดฝุ่น

  • ข้อดี: เหมาะกับการ ทำความสะอาดประจำวัน ค่ะ อยากให้บ้านดูสะอาดเรียบร้อยเร็วๆ ก็ใช้ เครื่องดูดฝุ่น เลย สะดวกมากๆ
  • ข้อจำกัด: แต่เขาไม่สามารถทำความสะอาดแบบลึกๆ ถึงขั้นฆ่าเชื้อโรค หรือจัดการสิ่งสกปรกที่ซ่อนอยู่ในซอกมุมได้อย่างหมดจดนะคะ เขาเน้นการทำความสะอาด “ข้างบน” มากกว่าค่ะ

เครื่องทำความสะอาดไอน้ำ

  • ข้อดี: เหมาะกับการ ทำความสะอาดแบบล้ำลึก และฆ่าเชื้อโรคมากๆ เลยค่ะ โดยเฉพาะในจุดที่ต้องการความสะอาดเป็นพิเศษ หรือที่ที่ ไรฝุ่น กับ สารก่อภูมิแพ้ ชอบสะสม เช่น ที่นอน พรม โซฟา การใช้ เครื่องทำความสะอาดไอน้ำ จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าบ้านสะอาดจากข้างในจริงๆ
  • ข้อจำกัด: เขาต้องใช้เวลาเตรียมตัวนิดหน่อย (รอน้ำร้อน) แล้วก็การทำความสะอาดแต่ละจุดอาจใช้เวลานานกว่าการดูดฝุ่นค่ะ เลยไม่เหมาะกับการเอามาทำความสะอาดฝุ่นประจำวันแบบเร่งรีบทุกวันค่ะ

แล้วบ้านเราควรมีอะไรดี? “เครื่องทำความสะอาดไอน้ำ” VS เครื่องดูดฝุ่น…

พูดกันตามตรงเลยนะคะ บ้านของคุณอาจต้องการทั้งสองอย่างเลยค่ะ! เพราะเครื่องมือทั้งสองอย่างนี้ไม่ได้มาแทนที่กันนะคะ แต่เขาเป็นเหมือน “คู่หู” ที่ทำงานเสริมกันได้อย่างลงตัวมากๆ เพื่อให้บ้านของคุณสะอาดหมดจดทั้งภายนอกและภายในอย่างแท้จริง

คุณควรมี “เครื่องดูดฝุ่น” ถ้า

  • คุณอยาก กำจัดฝุ่น ละออง สิ่งสกปรก และเศษผงต่างๆ ในบ้านเป็นประจำทุกวันหรือทุกสัปดาห์
  • คุณมีพรม โซฟาผ้า หรือพื้นแข็งที่อยาก ทำความสะอาดฝุ่น เป็นประจำ
  • คุณมีสัตว์เลี้ยงที่ขนร่วงบ่อยๆ
  • คุณอยากทำความสะอาดแบบรวดเร็วและสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน

คุณควรมี “เครื่องทำความสะอาดไอน้ำ” ถ้า

  • คุณหรือคนในครอบครัวเป็นภูมิแพ้ (โดยเฉพาะแพ้ไรฝุ่น) และอยาก ลดสารก่อภูมิแพ้ ในบ้านให้ได้ผลจริงๆ
  • คุณอยาก ฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส บนพื้นผิวต่างๆ โดยไม่ต้องใช้น้ำยาเคมี
  • คุณอยาก ทำความสะอาดคราบฝังแน่น คราบไขมัน คราบสบู่ หรือคราบเชื้อราที่ปกติทำความสะอาดยาก
  • คุณอยาก ทำความสะอาด บ้านแบบล้ำลึกเป็นครั้งคราว (เช่น ทุก 1-2 เดือน) เพื่อสุขภาพที่ดีที่สุด
  • คุณมีเด็กเล็ก หรือสัตว์เลี้ยงในบ้าน ที่อยากให้เขามีสุขภาพที่ดี ไม่ต้องเสี่ยงเชื้อโรคและสารเคมี

บ้านที่สะอาดจริง ต้องสะอาดจากข้างใน!

ในท้ายที่สุดแล้ว เครื่องดูดฝุ่น และ เครื่องทำความสะอาดไอน้ำ มีบทบาทที่ต่างกัน แต่ทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัวเพื่อเป้าหมายเดียวกันคือบ้านที่สะอาดและปลอดภัย

  • ใช้ เครื่องดูดฝุ่น สำหรับการทำความสะอาดประจำวัน เพื่อ กำจัดฝุ่น และสิ่งสกปรกที่มองเห็นได้
  • ใช้ เครื่องทำความสะอาดไอน้ำ สำหรับการ ทำความสะอาดล้ำลึก ฆ่าเชื้อโรค และ กำจัดสารก่อภูมิแพ้ ที่มองไม่เห็น โดยเฉพาะในแหล่งสะสมของ ไรฝุ่น

การลงทุนในเครื่องมือทั้งสองอย่างนี้จะช่วยให้บ้านของคุณสะอาดหมดจด ปลอดภัยจากเชื้อโรคและ สารก่อภูมิแพ้ ได้อย่างแท้จริง ทำให้ทุกคนในครอบครัวมีสุขภาพที่ดีขึ้น และหายใจได้อย่างสบายใจในบ้านที่สะอาดบริสุทธิ์ของคุณค่ะ

What do you think?

Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Loading…

0
เครื่องดูดฝุ่น

พื้นที่เล็ก ฝุ่นเยอะกว่าที่คิด! เทคนิคจัดการฝุ่นในคอนโดให้จบใน 10 นาที